Ethanol จากแอลกอฮอล์ เมื่อมารดาดื่มเข้าไป ethanol สามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ ได้ และปริมาณความเข้มข้นของ ethanol ในกระแสเลือดของทารกจะเท่ากับปริมาณความเข้มข้นในกระแสเลือดของมารดา ซึ่งสามารถตรวจได้จากน้ำคร่ำ เลือดจากสายสะดือ และลมหายใจ การเกิด FAS (fetal alcohol syndrome) น่าจะเกิดจากการทำหน้าที่ของเอนไซม์ตับที่ทำให้กลไกการเจริญเติบโตและพัฒนาการเป็นไปไม่ดี
อาการและอาการแสดงของการขาดแอลกอฮอล์ภายหลังเกิดจะพบได้ในช่วง 6 – 12 ชั่วโมงแรก หลังเกิด และในระยะ 1 – 3 วันแรก โดยที่ทารกจะมีอาการสั่น ชัก นอนหลับได้น้อย ร้องไห้ตลอดเวลา ท้องอืด มีลักษณะคล้ายหิวนมอยู่ตลอดเวลา แต่ดูดได้ไม่ดี
1.มีการเจริญเติบโตช้าในครรภ์น้ำหนักทารกแรกเกิดน้อย ความยาวสั้นกว่าปกติ ภายหลังเกิดน้ำหนักและส่วนสูง
จะเพิ่มขึ้นช้ามากช้ากว่าปกติถึง 30 เท่า ส่วนสูงเพิ่มช้ากว่าปกติถึงร้อยละ 65
2.การเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและระบบประสาทไม่ดีการกลืนมีปัญหา ภายหลังดูดนมจะอาเจียนพัฒนาการช้า
3.ระดับสติปัญญาต่ำว่าปกติ
4.มีลักษณะผิดปกติของรูปหน้าอย่างชัดเจนศีรษะเล็ก
5.เป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิดกระดูกสันหลังโป่งมีเยื่อหุ้มไขสันหลังโผล่ออกมา (spinal bifida) แขน ขาผิดปกติ
อวัยวะสืบพันธ์ผิดปกติ
6.ลักษณะภายนอก ริมฝีปากบางการเจริญของริมฝีปากบนผิดปกติ ลักษณะคล้ายปากของปลายขากรรไกรเล็กกว่าปกติ
ตาเล็กกว่าปกติ หนังตาบนสั้น ตาปิดไม่สนิท จมูกสั้น จมูกแบนบางรายพบว่ามีตาเหล่ เส้นลายมือมีเพียงเส้นเดียว
การประสานงานระหว่างสายตาและมือไม่ดีไม่สามารถกำมือแน่นๆได้ มีอาการสั่นในช่วงอายุ 1 เดือนแรก
7.มีอุบัติการณ์ของการพูดและการใช้ภาษาผิดปกติสูงมากเป็นข้อบ่งชี้ถึงความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง
จากการที่สมองส่วนกลางถูกทำลายตั้งแต่อยู่ในครรภ์นอกจากนี้ยังพบว่ามีอาการของการอยู่ไม่นิ่ง (hyperactive)
1.การซักประวัติการดื่มสุราของมารดาทั้งปริมาณและจำนวนครั้ง การได้รับอาหารของมารดาที่มีผลต่อทารกในครรภ์
การมีโอกาสเกิดความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง การชัก การถอนยาและการยอมรับทารก
2.การตรวจร่างกาย พบอาการและอาการแสดงของทารกที่แสดงว่ามารดาดื่มสุราในระยะตั้งครรภ์
3.การตรวจทางห้องปฏิบัติการหาระดับแอลกอฮอล์ในเลือด
ไม่มีการรักษาใดดีเท่ากับการให้มารดาเลิกดื่มสุราเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นไปได้ยาก สำหรับทารกนั้นจะให้ยาที่รักษาระบบประสาทส่วนกลางให้ทำงานดีขึ้น ให้ยาระงับหรือป้องกันการชัก คือ Phenobarbital หรือ diazepam
ต้องตระหนักถึงอาการและอาการแสดงของ FAS ซึ่งจะนำไปสู่การพยาบาลที่เหมาะสม คือ ต้องมีการประเมินสุขภาพ โดยการซักประวัติ การตรวจร่างกายทารกโดยละเอียดทุกขั้นตอนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการตรวจทางห้องปฏิบัติการร่วมด้วย ที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาทางการพยาบาลที่มีคุณภาพ